บล๊อกเชน ทำงานอย่างไร คริปโตหลอกลวงไหม อธิบายแบบง่ายๆ ลองอ่านกันดูนะครับ
ในยุคแรกเราที่เรามีอินเตอร์เน็ตเว็ปไซต์เป็นแบบอ่านได้อย่างเดียว จนพัฒนาให้สามารถเก็บข้อมูลได้ จึงทำให้เว็บไซต์สามารถตอบสนองเราได้ มีการโต้ตอบกันได้ มีการซื้อขายสินค้ากันได้ เพราะการเก็บข้อมูลนั่นเองทำให้สามารถเปลี่ยนจากเว็บไซต์ยุคแรก Web1 กลายเป็น Web2
เมื่อการเก็บข้อมูลถูกพัฒนาให้สามารถเก็บเป็นชุดๆ ได้ตามเงื่อนไขของเวลา และปริมาณของข้อมูล การเก็บข้อมูลลักษณะนี้จึงเป็นพัฒนาการที่เรียกว่าบล๊อกเชน และนี่คือวิวัฒนการที่นำเราไปสู่ Web3 ซึ่งการเก็บข้อมูลลักษณะนี้ทำให้สามารถนำมาใช้กับระบบการเงินได้และมีความปลอดภัย จึงได้ถือกำเนิดคริปโต
คริปโตจึงเหมือนบริษัทเทคโนโลยี ที่สร้างบล๊อกเชนของตัวเองขึ้นมา จะเรียกว่ากันว่าเชน คริปโตหลักๆ จะมีเชนเป็นของตัวเอง และการมีเชนเป็นของตัวเองก็เหมือนการมีแพลทฟอร์ม หรือระบบปฏิบัติการของตัวเอง และชื่อเหรียญก็เทียบเท่ากับชื่อบริษัทนั้นๆ เช่น ETH SOL TRX BTC BNB XRP DOGEเป็นต้น
แต่ละเชนจึงสามารถให้เราไปสร้างแอพพลิเคชั่น หรือเว็บ 3 บนเชนนั้นๆ ได้ แต่ด้วยความสามารถของบล๊อกเชน คือการเก็บข้อมูลแบบกระจาย แอพพลิเคชั่นจึงเกี่ยวข้องกับการเงินเป็นหลัก ปัจจุบันแอพพลิเคชั่นที่อยู่บนบล๊อกเชนเริ่มมีหลายหมวดมากขึ้น เช่น หมวดเกมส์ หมวดโซเชี่ยลมีเดีย หมวดการตลาดซื้อขายสินทรัย์ดิจิตอล (NFT)
เราในฐานะผู้ใช้จึงสามารถซื้อเหรียญ หรือหารายได้จากแพลฟอร์มของแต่ละเหรียญ จากแอพพลิเคชั่นต่างๆ นี่คือจุดตัดระหว่าง Web2 และ Web3 ที่เราสามารถเป็นผู้ใช้และผู้ถือหุ้นในสินทรัพย์นั้นๆ ได้ ทำให้การลงทุนเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน จนธนาคารเดิมส่วนใหญ่ต้องปรับตัว และเพิ่มผลิตภัณฑ์การลงทุนลงในแอพธนาคาร และเราสามารถซื้อหุ้นได้ด้วยเงินหลักสิบบาท
คริปโตจึงเป็นเหมือนทรัพย์สินอย่างหนึ่งที่แปรสภาพเป็นเงินได้ทันที และยังไม่มีกฏหมายควบคุม เพราะกฏหมายจะตามหลังเทคโนโลยีเสมอ ทำให้เกิดมิจฉาชีพนำไปใช้ในทางที่ผิด จึงส่งผลต่อภาพลักษณ์ของคริปโตในเชิงลบ และเกิดช่องว่างให้ใช้กระแสคริปโต หลอกลงทุน รวยเร็ว จึงซ้ำเติมคริปโตในเชิงลบไปอีก
หลังจากทรัมป์ได้เป็นประธานาธิปดี จึงพยายามสร้างกฏระเบียบของคริปโต เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในการเป็นสินทรัพย์ของรัฐบาลได้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของอุตสากรรมคริปโต ถ้าทุกคนจำได้ยุคหนึ่งเราไม่กล้าซื้อของออนไลน์เพราะกลัวถูกหลอก กลัวโอนเงินแล้วไม่ได้ของ แต่ปัจจุบันกลายเป็นเรื่องปกติในการซื้อของออนไลน์ คริปโตก็เช่นกัน ในอนาคตก็จะเป็นเรื่องปกติในการใช้จ่าย การหารายได้จากคริปโต